รัสเซียรวมทั้งยูเครนเซ็นชื่อกติกาเปิดท่าเรือสมุทรดำเพื่อเริ่มการส่งออกเมล็ดพืชอีกทีแล้ว ภายหลังหยุดชะงักด้วยเหตุว่าการทำศึก ท่ามกลางวิกฤติของกินโลก
สำนักข่าว รอยเตอร์ส แถลงการณ์ว่า ผู้แทนจากรัสเซียกับยูเครนลงชื่อกติกา เปิดท่าเรือสมุทรดำของยูเครนเพื่อเริ่มการส่งออกเมล็ดพืชที่หยุดชะงักเพราะเหตุว่าการศึกอีกรอบแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ 22 เดือนกรกฎาคม 2565 จุดประกายความคาดหวังว่า วิกฤติของกินขาดซึ่งกำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งโลกจะทุเลาลงบ้าง
กติกาดังที่กล่าวมาแล้วได้ผลจากการสนทนานานร่วม 2 เดือน โดยมีองค์การสหประชาชาติรวมทั้งประเทศตุรกีเป็นตัวกึ่งกลาง มีแพ็กเกจที่จะรู้สึกตัวการส่งออกเมล็ดพืชของยูเครน และก็ทำให้การขนส่งเมล็ดพืชกับปุ๋ยของรัสเซียทางแม่น้ำทำเป็นง่ายมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการคว่ำบาตรอย่างมากจากชาติตะวันตก
นายอันโตนิโอ เราเตร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น ซึ่งร่วมเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สำหรับการลงชื่อคราวนี้ บอกว่า กติกาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วจะเปิดทางส่งออกของกินอย่างเป็นจริงเป็นจัง จากท่าเรือหลัก 3 ที่ของยูเครน ดังเช่นว่า โอเดสซา, เชอร์โนมอร์สก์ แล้วก็ยุยงชนี ในขณะที่ยูเอ็นจะก่อตั้งศูนย์ประสานงานร่วม เพื่อรอตรวจตราการบังคับใช้กติกานี้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการลงชื่อกติกาด้วยกัน แต่ว่ารัสเซียกับยูเครนยังคงแสดงออกถึงความเป็นศัตรูและไม่เชื่อใจกันอย่างแจ่มแจ้ง โดยในพิธีการลงชื่อผู้แทนจากรัสเซียรวมทั้งยูเครนไม่ยอมรับที่จะร่วมโต๊ะเดียวกัน ในตอนที่การจัดวางธงชาติของทั้งคู่ประเทศ ถูกวางให้ห่างจากกัน
ดังนี้ ข้าราชการอาวุโสขององค์การสหประชาชาติ บอกกับผู้รายงานข่าวในวันศุกร์ว่า กติกาฉบับนี้จะถูกบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบข้างใน 2-3 อาทิตย์ด้านหน้า โดยจะมีการค้ำประกันความปลอดภัยในเส้นทางเดินเรือเข้าออกจากท่า เวลาที่จะมีเรือบินยูเครนรอนำทางเรือไปตามทางไม่มีอันตราย เพื่อหลบทุ่นระเบิดที่ยูเครนวางไว้ต่อกรทัพเรือรัสเซียด้วย แล้วหลังจากนั้นเรือผลิตภัณฑ์จะเดินทางผ่านช่องแคบบอสฟอรัส ออกสู่ตลาดโลก
ข้าราชการ UN เผยอีกว่า กติกาจะแก่ 120 วัน แต่ว่าสามารถยืดอายุได้ และก็มั่นใจว่าการขนส่งผลิตภัณฑ์ไม่หยุดลงในเร็วๆนี้