เหตุฆ่า 2 ผัวเมีย ชาวไทยในไต้หวัน แอบซ่อนศพไว้ด้านหลังรถยนต์หรู รอบๆสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน สร้างความตะลึงงันทั้งยังเกาะไต้หวัน
เหตุฆ่า 2 ผัวเมีย ชาวไทยในไต้หวัน แอบซ่อนศพไว้ด้านหลังรถยนต์หรู รอบๆสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน สร้างความตะลึงงันทั้งยังเกาะไต้หวัน เนื่องด้วยคนเสียชีวิตกำลังท้องฝาแฝด 5 เดือน ส่วนคนก่อเหตุ แอบหนีมายังเมืองไทย โดยเดินทางด้วยเรือบิน พื้นฐานผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทยได้ผสานกับตำรวจไต้หวัน รีบติดตามหาฆาตกร แล้วก็เจอร่องรอยว่า ผู้ร้ายเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถย้อนไทม์ไลน์ตั้งแต่วันก่อเหตุ จนกระทั่งการไล่ล่าผู้ร้าย ได้ดังต่อไปนี้
ลำดับไทม์ไลน์ย้อนมองกล้องวงจรปิด 8 มิ.ย. วันก่อเหตุ
8 มิ.ย. เวลา 22.00 น. ตรงเวลาแคว้นไต้หวัน รูปภาพที่เอามาจากกล้องวงจรปิดมองเห็นคนตาย ข้างหญิง เดินอยู่คนเดียว บนถนนหนทางเขตเช็ดเฉิง นครนิวไทเป ใกล้เคียงกับจุดที่ถูกฆ่า เวลา 22.15 น. ภาพที่นำมาจากกล้องวงจรปิดข้างในห้องพักแรงงานต่างประเทศ เจอผู้ร้ายเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างหลังฆ่าผัว เมีย โดยคาดว่าเงื่อนเหตุมาจาก การตกลงเรื่องธุรกิจนำเข้าแรงงานไทยไม่ลงตัว เพราะว่าผู้ก่อเรื่องอยากส่วนแบ่งจากกำไร เวลา 04.50 น. ผู้ร้ายขับขี่รถยนต์แบรนด์หรูมาหยุดทิ้งเอาไว้รอบๆที่จอดรถ สถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ก่อนล่องหนไป โดยสื่อของไต้หวันกล่าวว่า ตำรวจไต้หวันพินิจพิจารณาว่า ฆาตกรมุ่งหวังจะลวงให้ข้าราชการรู้สึกว่าผู้ร้ายหนีไปยังเมืองอื่นโดยรถไฟฟ้าความเร็วสูง
9 มิ.ย. เวลา 10.30 น. ฆาตกรถือเชื้อชาติไทยรวมทั้งไต้หวัน แอบหนีเข้ามาเมืองไทย ด้วยสายการบิน STARLUX เที่ยวบิน JX741 พื้นฐานตำรวจไทยได้รับข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วก็ทางแอบหนีของฆาตกร ภายหลังลงเครื่องที่ไทย ได้เดินทางหลบซ่อนอไปยังจังหวัดเชียงใหม่ แต่ว่ายังไม่เจอตัวผู้ร้าย
10 มิ.ย. ตำรวจไต้หวันได้รับแจ้งว่า มีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นศพ รอบๆที่จอดรถสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเจอรถยนต์มีน้ำเหลืองไหลออกมาจากด้านหลังรถยนต์ เพียงพอเปิดข้างในรถยนต์เจอศพ 2 ผัวเมีย แถวๆหัวถูกตีด้วยของแข็ง คาดว่าเสียชีวิตมาโดยประมาณ 2 วัน ด้านในรถยนต์ไม่เจอร่องรอยการต่อสู้ คาดคะเนว่า 2 ผัวเมียถูกฆ่าตายมาจากที่อื่นๆ ก่อนนำศพมาปิดบังในรอบๆสถานีรถไฟดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
12 มิ.ย.. ศูนย์บัญชาการตำรวจนครบาล (แผนกบัญชีน.) ของไทย โดย พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนก้าวหน้า รองผู้ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองพิธีกร ตำรวจ) แถลงความก้าวหน้าของคดีนี้ รับรองว่าผู้ต้องหาเดินทางหลบซ่อนเข้ามาในไทยแล้ว รวมทั้งกำลังผสานขอข้อมูลที่ได้มาจากตำรวจไต้หวันเพิ่มเติมอีก เพื่อร่วมมือติดตามหาผู้ร้าย รวมทั้งหาวิถีทางแม้จำเป็นต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเหตุว่าผู้ร้ายถือเชื้อชาติไทยและก็ไต้หวัน ในวันเดียวกัน พล.ตำบลตำบลเขมรินทร์ หัสศรี ผู้บังคับบัญชากองการต่างประเทศ (ผบกรัมตท.) กล่าวมาว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาตำรวจไทยแล้วก็ไต้หวันมีความร่วมแรงร่วมใจที่ดีต่อกัน ถ้าหากมีการขอร้องให้ติดตามผู้ร้าย แล้วก็ส่งผู้ร้ายข้ามแดน สามารถทำเป็น หากแม้ไทยกับไต้หวันจะไม่มีอนุสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
13 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พี่ชายของหญิงสาวผู้ตาย เดินทางไปพบ พล.ตำบลตำบลวีรชน บุญทวี รองผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อฟ้องร้องไว้เป็นหลักฐาน กรณีน้องสาวถูกฆาตกรการฆ่าในไต้หวัน รีบให้ข้าราชการติดตามฆาตกรเอามาฟ้องร้อง โดยคาดว่าเอกสารและก็หมายจับโจรข้ามถิ่น ทางสถานทูตไต้หวันจะส่งให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทย ด้านในวันนี้
ข้อมูลที่ได้มาจากสำนักข่าวเขตแดนไต้หวัน รายงานที่ผ่านมาว่า “เฉิน ฉี เพง” หัวหน้าชุดสืบสาวที่ทำการตำรวจเขตต้องลี่ เมืองเถาหยวน เจาะจงถึงคนเสียชีวิตทั้งคู่ว่า รู้จักกับผู้ร้ายมานานตั้งแต่เรียนอยู่ที่ประเทศไทย ก่อนผู้ตายข้างหญิงเดินทางกลับไป ไต้หวันรวมทั้งสมรสจนได้เชื้อชาติไต้หวันอีกชนชาติ ปัจจุบัน ได้เริ่มทำธุรกิจนำเข้าแรงงานไทย ได้ว่าจ้างผู้ร้ายมาช่วยทำบัญชี โดยคาดว่าความไม่ตรงกันอาจเป็นเพราะเนื่องจากฆาตกรไม่ชอบใจที่ได้รับค่าแรงเป็นค่าจ้างรายเดือน แม้กระนั้นอยากได้แบ่งกำไรตามรูปทรงของหุ้นส่วน อย่างไรก็ดี คดีฆ่า 2 ผัวเมียคนประเทศไทยที่ไต้หวันนี้ยังจำต้องติดตาม การเข้าจับกุมฆาตกร และก็สอบปากคำหาข้อสรุป ถึงมูลเหตุการก่อเหตุสะเทือนใจที่ไต้หวันคราวนี้.