จ่อเตือนภัย!เหลือระดับ 2 ช่วงปลาย พฤษภาคม โควิดชักแผ่วๆ ลุ้นบรรเทามาตรการเพิ่ม
จ่อลดระดับเตือนภัยเหลือระดับ 2 สิ้นเดือน เดือนพฤษภาคม ข้างหลังเหตุการณ์โควิด-19 เบาๆลงแล้ว ลุ้น ศบค.บรรเทามาตรการมากเพิ่มขึ้น เปิดผับบาร์–เลิก Thailand Pass ผู้ช่วยพิธีกร ศบค.ท้วงติงอย่ายึดมาตรฐานฝรั่งที่หลายประเทศบรรเทาไม่ราวกับไทยเนื่องจากบริบทแตกต่าง รีบฉีดยาผู้เรียนรับเปิดภาคเรียน รอยเตอร์เปรียบเทียบยอดผู้ตายบวงสรวงโควิด-19 ของสหรัฐอเมริกา ที่ทะลุ 1 ล้านคน มากยิ่งกว่าปริมาณประชาชนใน 2 เมืองเป็นซานฟรานซิสโกแล้วก็ซีแอตเติล เวลาที่ WHO เจาะจงคนทั่วทั้งโลกตายเนื่องจากว่าโควิดถึง 15 ล้านคน
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคม เวลา 12.30 น. ผู้ช่วยผู้ประกาศศบค. แถลงเหตุการณ์โควิด-19 ในไทยว่า เจอผู้ติดโรคใหม่ 8,019 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 59 ราย เป็นชาย 31 ราย หญิง 28 ราย เป็นผู้ตายที่มี อายุ 60 ปีขึ้นไป 49 ราย มีโรคเรื้อรัง 10 ราย ยอดผู้ติดเชื้อโรคสะสมรับรอง 4,353,237 ราย ยอดหายสะสม 4,246,499 ราย ยอดผู้ตายสะสม 29,311 ราย ในตอนที่เหตุการณ์โลกมียอด
ผู้ติดโรคสะสม 519,144,862 ราย เสียชีวิตสะสม 6,282,332 ราย ในปริมาณคนตายวันนี้ของเมืองไทย พบว่าปริมาณร้อยละ 70 ไม่เคยได้รับวัคซีน และก็มีถึง 21 รายอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็เลยขอรณรงค์ให้ราษฎรเข้ารับวัคซีน นอกเหนือจากนี้มี 3 รายที่เสียชีวิตวันที่ตรวจเจอเชื้อแล้วก็ 9 ราย เสียชีวิตข้างหลังการเจอเชื้อเพียงแค่ 3 วัน ก็เลยฝากเตือนไปยังสามัญชนแม้มีลักษณะหรือเสี่ยงให้รีบเข้ารักษา เพราะเหตุว่าวันนี้มีมาตรฐานการดูแลรักษาที่ก็ดีแล้ว สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดโรคสูงสุด เช่น กรุงเทพมหานคร 2,747 ราย ร้อยเอ็ด 253 ราย จังหวัดชลบุรี 248 ราย จังหวัดบุรีรัมย์ 229 ราย จังหวัดสมุทรปราการ 195 ราย จังหวัดนครราชสีมา 189 ราย มหาสารคาม 177 ราย จังหวัดอุบลราชธานี 168 ราย ขอนแก่น 147 ราย จังหวัดสุรินทร์ 140 ราย
พญ.อภิยุคกล่าวเพราะว่า ในกรณีที่มีหลายประเทศบรรเทากิจกรรม กิจการค้า เปิดสถานเริงรมย์ รวมทั้งไม่ใส่หน้ากากอนามัยนั้น ขอแจกแจงว่า พวกเราไม่อาจจะยึดประเทศใดเป็นต้นแบบได้ เพราะเหตุว่าบริบทแตกต่างกัน ถึงแม้หลายประเทศจะบรรเทาแต่ว่าพบว่าปริมาณผู้ติดโรคสูงมากขึ้น ทำให้ปริมาณคนตายสูงมากขึ้นด้วย โดยเหตุนั้น พวกเราจำเป็นต้องยึดประกาศ ศบค.รวมทั้งมาตรการสาธารณสุขเป็นหลัก
พญ.อภิยุคบอกว่า ห้องประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้ปรึกษาถึงการเปิดเทอมในวันที่ 17 พฤษภาคม กระทรวงศึกษาธิการแจ้งข้อมูลการฉีดยาของเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปว่า มีปริมาณ 5,114,503 ราย มีความมั่นหมายฉีดยา 4,474,211 ราย ฉีดเข็มหนึ่ง 4,274,155 ราย ฉีดเข็มสอง 3,511,087 ราย ฉีดเข็มสาม 56,167 ราย ส่วนเด็กอายุ 5-12 ปี มีทั้งนั้น 5,263,106 ราย ต้องการฉีดยา 3,369,572 ราย ฉีดเข็มหนึ่ง 1,785,414 ราย ฉีดเข็มสอง 296,209 ราย ก็เลยขอให้สถานศึกษาต่างๆติดตามเด็กที่ยังมิได้รับวัคซีนให้เข้ามารับวัคซีน รวมทั้งพนักงานด้านในสถานศึกษาด้วย