แม่โวยวายคุณครูสั่งลงโทษ ลูกชายวัย 15 ลุกนั่ง 200 ครั้ง ต้นขาอักเสบ-ติดเชื้อโรค จำเป็นต้องผ่าตัด

ข่าวดังไทยรัฐ ข่าวทั่วไทย

แม่โวยวายคุณครูสั่งลงโทษลูกชายวัย 15 ลุกนั่ง 200 ครั้ง ต้นขาอักเสบติดเชื้อโรค จะต้องผ่าตัด หยุดเรียนเป็นเวลานานกว่า เดือน 

ข่าวดังไทยรัฐ ตอนวันที่ 29 สิงหาคม 2565 ผู้รายงานข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางเล็ก ณีอู่ทองคำ อายุ 59 ปี ว่า นายนราวิชญ์ อายุ 15 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ของโรงเรียนมัธยมศึกษามีชื่อในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี ถูกครูสั่งลงอาญาด้วยแนวทางการทำท่าลุกนั่ง ปริมาณ 200 ครั้ง จนถึงลูกชายกำเนิดอาการกล้ามต้นขาอักเสบแล้วก็ติดเชื้อโรคอย่างหนัก

ถัดมาตรวจเจอว่าลูกชายมีฝีขึ้นที่รอบๆขาพับต้นขาซ้าย จำต้องผ่าตัดถึง ครั้งรวมทั้งจะต้องพักฟื้นยาวนานกว่า เดือน แต่ว่าทางอาจารย์ผู้สั่งลงอาญารวมทั้งสถานศึกษาสังกัดเดิมยังไม่มีการเข้ามาดูแลแก้ไขช่วยเหลือ โดยเข้าแจ้งเหตุกับตำรวจแล้ว แม้กระนั้นคดียังปราศจากความก้าวหน้า

นางเล็ก บอกว่า เรื่องดังที่กล่าวผ่านมาแล้วเกิดขึ้นช่วงวันที่ 23 กรกฎาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ข้างหลังลูกชายเลิกเรียนกลับมาถึงหน้าบ้าน พบว่ามีลักษณะปวดตึงที่ต้นขาทั้งสองข้าง เมื่อไต่ถามก็เลยทราบดีว่า ลูกชายถูกคุณครู ซึ่งเป็นคุณครูหญิงสั่งลงทัณฑ์ ด้วยเหตุว่าไม่ยินยอมเข้าห้องเรียน โดยการสั่งให้ทำท่าลุกนั่ง ปริมาณ 200 ครั้ง เมื่อลูกกลับมาบ้านก็รู้สึกว่าไม่เป็นอะไรมากมาย ก็เลยไปซื้อยานวดมาทาแล้วก็ซื้อยาแก้อักเสบมาให้ลูกรับประทาน

ข่าวดังไทยรัฐ ข่าววันนี้
นางเล็ก กล่าวว่ากล่าว ผ่านไปเป็นเวลานานกว่า วัน ลูกชายก็อาการกำเริบ ก็เลยตกลงใจโทรศัพท์หาคุณครูที่สั่งลงอาญาว่าลูกชายอาการแย่ลง อาจารย์ก็เลยอาสาพาลูกชายไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใน อำเภอท่าม่วง ครั้ง พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อโรคและก็ยาแก้อักเสบ แม้กระนั้นอาการก็ไม่ดีขึ้น จนกระทั่งมีการส่งตัวมาตรวจให้ถี่ถ้วนที่โรงหมอเลาขวัญ ก็เลยพบว่าลูกชายมีลักษณะอาการติดเชื้อโรคอย่างหนักจนกระทั่งต้นขาบวม และก็มีฝีขึ้นที่รอบๆข้อพับต้นขาซ้าย จะต้องกระทำผ่าตัด

นางเล็ก กล่าวอีกว่า ตอนวันที่ สิงหาคม ได้ผ่าตัดคราวแรก แต่ว่าพบว่ายังคงมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด ก็เลยจำต้องกระทำการผ่าตัดครั้งลำดับที่สอง ตอนวันที่ 24 เดือนสิงหาคมก่อนหน้านี้ อาการก็เลยดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นลูกชายยังเดินไม่สบาย จำต้องทำแผลแต่ละวันรวมทั้งยังจำต้องพักฟื้นตลอด รวมจนกระทั่งเวลานี้ ลูกชายจำต้องหยุดเรียนมานานกว่า เดือนแล้ว

นางเล็ก กล่าวอีกว่า ตนมั่นใจว่าการที่จู่ๆลูกชายซึ่งมีสุขภาพดีรวมทั้งเป็นนักกีฬาบอล กำเนิดมีลักษณะอาการเจ็บป่วยติดเชื้อโรคแล้วก็มีฝีขึ้นที่ขาพับต้นขาซ้าย น่าจะเป็นผลมาจากการสั่งลงอาญาให้ทำท่าลุกนั่งกว่า 200 ครั้ง ซึ่งเป็นการลงอาญาที่ร้ายแรงเกินเหตุ ทำให้ลูกชายจำเป็นต้องเจ็บหนักแบบนี้ ข้างหลังเกิดเหตุตนรวมทั้งผัวได้ไปแจ้งเหตุที่ สภ.เลาขวัญ เพื่อฟ้องร้องกับอาจารย์สาวที่สั่งลงทัณฑ์ลูกชายจนถึงเจ็บหนัก แต่ว่าจนกระทั่งบัดนี้ คดียังไม่ก้าวหน้า ถึงแม้อาจารย์ที่สั่งลงทัณฑ์มานะเข้ามาพูดจาไกล่เกลี่ย แต่ว่ายังไม่มีการบำบัดใดๆก็ตามตนอยากที่จะให้คุณครูคนมีชื่อเสียงกล่าวไม่อาจจะไปสั่งลงอาญานักเรียนบุคคลอื่นแบบงี้ได้อีก

ด้าน นางสาวเสาวณี วงษ์พัฒน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา บอกว่า ในขณะนี้ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาวิเคราะห์ความเป็นจริงทั้งสิ้นแล้ว จากการตรวจสอบแล้วก็พบว่าคุณครูที่สั่งลงทัณฑ์หมายถึงนางสาวทะเล การศึก อายุ 31 ปี ส่วนต้นเหตุที่สั่งลงทัณฑ์ด้วยการสั่งให้เด็กทำท่าลุกนั่ง ปริมาณ 200 คราวนั้น เป็นด้วยเหตุว่าเด็กโดดเรียน ไม่ยินยอมเข้าห้องเรียนในคาบวิชาที่คุณครูทะเลเป็นอาจารย์ ซึ่งการลงอาญาด้วยการสั่งให้ทำท่าลุกนั่ง เป็นการลงโทษตามข้อตกลงระหว่างคุณครูรวมทั้งเด็กนักเรียน เพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียนอี

นางสาวเสาวณี กล่าวต่อว่าต่อขาน ครูการันตีว่าสั่งทำโทษเด็กไปปริมาณ 150 ครั้ง และก็ให้เพื่อนพ้องในห้องเป็นคนนับปริมาณคุ้นเคย อาจารย์ผู้สอนรับรองว่าที่ทำไปเพียงแค่เพื่อเป็นการลงทัณฑ์เด็กให้เข็ดไม่กล้าโดดเรียนอีก ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กเจ็บ ทั้งข้างหลังรู้ว่าเด็กมีลักษณะป่วยไข้ติดโรค ก็ได้พาเด็กไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลด้วยตัวเอง โดยอาจารย์ผู้สอนรับผิดชอบค่าหมอทั้งสิ้นด้วยตัวเอง

นางสาวเสาวณี กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากนี้ ระหว่างที่เด็กพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ครูรวมทั้งผู้อำนวยการสถานศึกษา มีการไปติดตามเยี่ยมเยือนลักษณะของเด็กที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ พร้อมผสานอาจารย์ที่ปรึกษาของเด็กให้ดูแลหัวข้อการเรียนและก็การบ้านของเด็กให้พักเอาไว้ก่อน เพื่อผู้ดูแลแน่ใจว่าเด็กจะไม่เสียการเรียน

ผู้อำนวยการสถานศึกษา กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งยกเลิกการลงอาญาเด็กโดยทำท่าลุกนั่งโดยเด็ดขาดไปแล้ว เพราะเหตุว่าการลงทัณฑ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมิได้อยู่ในระเบียบปฏิบัติของโรงเรียนรวมทั้งบางทีอาจเสี่ยงทำให้เด็กเจ็บได้ ดังนี้ จากการตรวจดูของคณะกรรมการ พบว่าในวันดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น นอกเหนือจาก เด็กชายนราวิชญ์แล้ว ยังมีเด็กบุคคลอื่นที่ถูกสั่งลงทัณฑ์ด้วยแนวทางเดียวกัน แม้กระนั้นไม่มีเด็กผู้ใดที่มีลักษณะอาการป่วยไข้เสมือน เด็กชายนราวิชญ์

นักข่าวรายงานว่ากล่าว ทางอาจารย์ผู้สั่งลงอาญารวมทั้งแผนกผู้บริการโรงเรียนด้มีการคุยกับผู้ดูแลของ เด็กชายนราวิชญ์แล้ว แต่ว่ายังไม่อาจจะตกลงกันในส่วนของเงินค่าแก้ไขได้ เหตุเพราะ ทางบิดารวมทั้งแม่ของ เด็กชายนราวิชญ์ เรียกร้องเงินแก้ไขและก็เงินค่าขาดรายได้ของผู้ดูแล ที่จะต้องหยุดงานมาดูแลลูกกว่า เดือน รวมเป็นเงิน 250,000 บาท

แม้ว่าจะมีการต่อรองกันกระทั่งต่ำลงมาเหลือ 150,000 บาท แต่ว่าทางคุณครูผู้สั่งลงอาญาก็ขาดเงินพอที่จะแก้ไขได้ในปริมาณดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ก็เลยมอบเงินแก้ไขพื้นฐานให้ปริมาณ 30,000 บาท แม้กระนั้นทางบิดามารดาของเด็กยังไม่รับและก็รับรองที่จะเอาการให้ถึงที่สุด

ในส่วนของคดีนั้น ผู้รายงานข่าวเดินทางลงพื้นที่ สภ.เลาขวัญ เพื่อถามไถ่ถึงความก้าวหน้าในคดี พบว่าบิดารวมทั้งแม่ของ เด็กชายนราวิชญ์ ได้เดินทางเข้าฟ้องร้องฟ้องร้องคดีกับอาจารย์ผู้สั่งลงอาญา ในข้อผิดพลาดฐาน ข่มขืนใจคนอื่นให้ทำการใด ไม่ทำการใด หรือจำนนต่อสิ่งใด โดยการทำให้กลัวว่าจะมีอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ความอิสระ เกียรติศักดิ์หรือสินทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่ในระหว่างให้คู่อริทั้งสองฝ่ายเข้าให้คำให้การเสริมเติมแล้วก็พูดจาเรื่องค่าแก้ไข