ประเทศแอลเบเนีย กล่าวหาประเทศอิหร่านจู่โจมไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมประกาศตัดสายสัมพันธ์ทางการนักการทูต รวมทั้งสั่งให้ข้าราชการสถานทูตประเทศอิหร่านทั้งหมดทั้งปวงออกมาจากประเทศ
สำนักข่าว สถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี แถลงการณ์ว่า นายเอดี รามา นายกฯที่ประเทศแอลเบเนีย เผยในวันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ว่า การไต่ถามของข้าราชการเจอหลักฐานที่ไม่บางทีอาจคัดค้านได้ว่า ประเทศอิหร่านว่าจ้างกรุ๊ป 4 กรุ๊ป ก่อเหตุจู่โจมทางไซเบอร์ต่อแอลเบเนียตอนวันที่ 15 เดือนกรกฎาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยกรุ๊ปแฮกเกอร์เพียรพยายามทำให้บริการสาธารณะเป็นอัมพาต, ลบแล้วก็ลักขโมยข้อมูลของรัฐบาล แล้วก็ปลุกปั่นให้กำเนิดความระส่ำระสาย
นายรามากมายล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของกรุ๊ปแฮกเกอร์เป็นการทำลายส่วนประกอบเบื้องต้นทางดิจิทัลของรัฐบาลอัลเบเนีย รวมทั้งลักขโมยข้อมูลแล้วก็ระบบการติดต่อสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ของรัฐบาล อย่างไรก็แล้วแต่ นายรามาย้ำว่า การจู่โจมดังที่ได้กล่าวมาแล้วไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ ระบบทั้งปวงกลับมาดำเนินงานปกติแล้ว และไม่มีการลบข้อมูลใดที่ย้อนคืนมิได้
นายกฯแอลเบเนียสารภาพว่า การตัดไมตรีทางการนักการทูตกับประเทศอิหร่านนั้นร้ายแรงมากมาย แต่ว่าสมควรแล้วกับความร้ายแรงแล้วก็ความอันตรายจากการจู่โจมทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น
ด้านสหรัฐอเมริกา ก็ออกมาตำหนิการจู่โจมทางไซเบอร์ของประเทศอิหร่านเหมือนกัน โดยนาง อาเดรียนเน วัตสัน พิธีกรที่ประชุมความมั่นคงและยั่งยืนแห่งชาติสหรัฐอเมริกา พูดว่า ผู้ชำนาญอเมริกันได้ผลสรุปว่า ประเทศอิหร่านก่อเหตุจู่โจมไซเบอร์อย่างไร้ความรับผิดชอบแล้วก็ขาดความยับยั้งชั่งใจคราวนี้ แล้วก็ประเทศอิหร่านยังเป็นผู้จะรับผิดชอบต่อทำการแฮกและก็ปลดปล่อยข้อมูลลับที่ตามมาอีกหลายคราวด้วย
ดังนี้ ข้างประเทศอิหร่านยังไม่ออกมาขยับเขยื้อนอะไรก็ตามต่อทีท่าปัจจุบันของแอลเบเนีย แต่ว่าความเกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาวะเคร่งเคลียดอยู่แล้ว นับจากแอลเบเนียยื่นข้อเสนอหนีภัยให้แก่ชาวประเทศอิหร่านที่มองเห็นต่างทางด้านการเมืองปริมาณหลายพันคน